หิมะตก

วันอังคารที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

ด้าน People ware


ตำแหน่งงานด้าน IT
1.  นักวิเคราะห์ระบบ (System  Analysis)
คือ ผู้ที่เป็นตัวกลางในการติดต่อระหว่างระบบสารสนเทศกับกลุ่มผู้ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ เจ้าของระบบ (System Owners) ผู้ใช้ระบบ (System Users) และผู้สร้างระบบ (System Builders) เพื่อพัฒนาระบบสารสนเทศขององค์กรขึ้นมา ทั้งนี้หน้าที่หลักของนักวิเคราะห์ระบบจะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ วิเคราะห์ระบบ และออกแบบระบบ
  หน้าที่ของนักวิเคราะห์ระบบสมัยใหม่  
          นอก จากหน้าที่หลักของนักวิเคราะห์ระบบสมัยใหม่ คือ การวิเคราะห์และออกแบบระบบ แล้วนักวิเคราะห์ระบบยังมีหน้าที่ที่ต้องดำเนินการอีกหลายหน้าที่ดังนี้
1. รวบรวมข้อมูล เป็นการรวบรวมข้อมูลของระบบเดิมเพื่อให้ทราบถึงปัญหาที่เกิดขึ้น และนำไปใช้เป็นข้อมูลส่วนหนึ่งในการพัฒนาระบบใหม่
2.   จัดทำเอกสาร ในระหว่างทำการพัฒนาระบบ นักวิเคราะห์ระบบจะต้องจัดทำเอกสารในแต่ละขั้นตอนให้ละเอียด
3.  จัดทำพจนานุกรมข้อมูล ( Data Dictionary ) เป็นการรวบรวมเอกสารทั้งหมด และอธิบายถึงสิ่งต่าง ๆ ที่ต้องมีการใช้งานในระบบ พจนานุกรมจัดเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องใช้ในการวิเคราะห์ระบบ
4.  ออกแบบระบบ นักวิเคราะห์ระบบจะต้องทำการออกแบบการทำงานของระบบใหม่ให้ตรงตามความต้องการ ของผู้ใช้ระบบ และมีความเหมาะสมมากที่สุด รวมทั้งออกแบบส่วนติดต่อผู้ใช้งาน และฮาร์ดแวร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศที่จะนำมาใช้งาน
5.  สร้างแบบจำลอง ทำการสร้างแบบจำลองของโปรแกรมที่พัฒนาขึ้นเพื่อนำเสนอแก่เจ้าของระบบและผู้ใช้งาน
6. ทดสอบโปรแกรมที่พัฒนาขึ้น ใน บางครั้งนักวิเคราะห์ระบบและโปรแกรมเมอร์จะเป็นผู้ทดสอบโปรแกรมเอง แต่หากให้ผู้ใช้งานระบบเป็นผู้ทดสอบจะมีประสิทธิภาพมากกว่า เพราะเป็นผู้ที่รู้และเข้าใจระบบงานอย่างแท้จริง
7.  ติดตั้งและทำการปรับเปลี่ยนระบบ ทำการติดตั้งและปรับเปลี่ยนระบบเดิมเป็นระบบใหม่
8.  จัดทำคู่มือ จัดทำคู่มือและจัดเตรียมหลักสูตรฝึกอบรมให้แก่ผู้ใช้ระบบ เนื่องจากเป็นการเปลี่ยนแปลงของระบบ
9. บำรุงรักษาและประเมินผลการปฏิบัติงานของระบบ เป็นการดูแลระบบเมื่อมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้น รวมทั้งเป็นการปรับปรุง ดัดแปลง หรือแก้ไขทั้งโปรแกรมและขั้นตอนการทำงานของระบบ เพื่อให้ระบบมีการทำงานที่ถูกต้องมากที่สุดจัดทำแบบสอบถามถึงผลการดำเนินงาน ของระบบใหม่ที่ได้ติดตั้งไปแล้ว
10. ป็นผู้ให้คำปรึกษา คอยให้คำปรึกษาแก่ผู้ใช้ระบบและทุกคนในระบบ ไม่ว่าจะเป็นทางด้านการใช้โปรแกรมหรือทางด้านเทคนิคก็ตาม
11. เป็นผู้ประสานงาน ทำหน้าที่ประสานงานระหว่างทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาระบบ เพื่อให้เข้าใจเหตุการณ์หรือข้อมูลที่เกิดขึ้นภายในองค์กรได้ถูกต้องตรงกัน ที่สุด
 
คุณสมบัติของนักวิเคราะห์ระบบสมัยใหม่  
นักวิเคราะห์ระบบที่ดียังจะต้องประกอบไปด้วยคุณสมบัติดังต่อไปนี้
1. มีความชำนาญหลากหลายในศาสตร์คอมพิวเตอร์ เช่น โปรแกรมคอมพิวเตอร์ โปรแกรมภาษาฮาร์ดแวร์  เทคโนโลยีสารสนเทศ เป็นต้น
2. มีความเข้าใจในระบบธุรกิจ ระบบการเงิน และระบบการตลาด เป็นอย่างดี
3. มีความเข้าใจในความต้องการของผู้ใช้ระบบเป็นอย่างดี
4. ต้องเป็นนักสำรวจ ที่ช่างสังเกตในรายละเอียดในรายละเอียดต่าง ๆ ของระบบ รวมทั้งองค์ ประกอบภายนอก   ที่เกี่ยวข้องกับ  ระบบ
5. มีจรรยาบรรณต่อองค์กรที่พัฒนาระบบให้ ไม่นำข้อมูลที่ได้ซึ่งเป็นความลับขององค์กรไปเผยแพร่ภายนอกอันก่อให้ เกิดผลเสียแก่องค์กร
6. ต้องทำงานเป็นทีมได้อย่างดี
7. มีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดี เนื่องจากนักวิเคราะห์ระบบต้องมีการติดต่อประสานงานระหว่างบุคคลหลายกลุ่ม
8. สามารถเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ได้ด้วยตนเอง
9. มีความสามารถในการนำเสนอข้อมูลให้ทั้งผู้บริหารระดับสูงรวมไปถึงผู้ใช้ระบบ ให้สามารถเข้าใจได้โดยง่ายและตรงกัน
10. มีความสามารถในการติดต่อสื่อสารเป็นภาษาอังกฤษได้ดี หากองค์กรนั้นสื่อสารภายในเป็นภาษาอังกฤษ
11. สามารถทำงานภายในภาวะกดดันได้ เนื่องจากต้องทำงานกับบุคคลหลายฝ่าย
12. เป็นนักจิตวิทยา ในการที่จะพูดคุยหรือติดต่อกับกลุ่มบุคคลหลายกลุ่มเพื่อให้ได้ข้อมูลอย่าง ถูกต้อง


คือ  ผู้ เขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ มีหน้าที่นำข้อมูลการออกแบบรายละเอียดของระบบงานจาก การวิเคราะห์ระบบโดยผู้วิเคราะห์ระบบงานมาวางแผน และจัดทำแผนภูมิ เขียนเป็นโปรแกรมสำหรับระบบต่างๆ เพื่อประมวลผลด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ โดยภาษาที่ใช้ในการเขียนจะแตกต่างกันไปตามลักษณะเครื่องระบบฐานข้อมูล ทำการทดสอบระบบที่พัฒนาให้เป็นไปตามเป้าหมายที่ตกลงไว้ และส่งมอบให้ผู้วิเคราะห์ระบบงาน และทำการทดสอบระบบโดยรวม เพื่อหาข้อผิดพลาดและแก้ไขก่อนที่จะนำไปใช้งานจริง
ลักษณะของงานที่ทำ  
รับรายละเอียดของความต้องการของผู้ใช้ระบบ (User) จากนักวิเคราะห์ระบบ (System Analyst) จัดทำแผนภูมิ (Flowchart) ขั้นตอนการทำงานที่ละเอียด และถูกต้องตามหลักวิชา เพื่อประโยชน์ในการเขียนโปรแกรมสำหรับการประมวลผลด้วยคอมพิวเตอร์
วิเคราะห์ แผนภูมิหรือแผนผังสายงาน แต่เพียงบางส่วนหรือทั้งหมด โดยนำความรู้เกี่ยวกับวิสัยสามารถของระบบคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่มาใช้สร้าง หรือกำหนดลำดับขั้นของการประมวลผล (โปรแกรม)
ปรึกษา หารือกับผู้ควบคุมงานและผู้แทนของหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาแก้ไขปัญหาที่สำคัญ ในการทำโปรแกรม เพื่อให้ผลจากเครื่องประมวลผลตามต้องการในเรื่องข้อมูลที่จะนำเข้าระบบ ขอบเขตของการเขียนโปรแกรม การใช้รหัส และการดัดแปลงเพิ่มเติม
ตรวจ สอบภายในและการควบคุมต่างๆ เขียนแผนภูมิสายงานที่ถูกต้องละเอียดตามหลักวิชาให้เป็นรูปสัญลักษณ์เพื่อ ใช้แทนลำดับขั้นของข้อมูล ที่จะประมวลผลด้วยระบบคอมพิวเตอร์ และเพื่อเป็นการอธิบายถึงการนำข้อมูลมาส่งเข้าหรือนำออกมาจากเครื่อง
เปลี่ยนแผนภูมิสายงานที่ละเอียดและถูกต้องตามหลักวิชาการให้เป็นภาษาที่ใช้กับการประมวลผลข้อมูลด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์
ทดสอบ โปรแกรมด้วยข้อมูลตัวอย่าง ทดสอบความถูกต้องของโปรแกรม ใช้ข้อมูลตัวอย่างหรือ ข้อมูลจริงส่งเข้าเครื่องคำนวณ เพื่อทดสอบโปรแกรมที่เข้ารหัสแล้วกับเครื่องคำนวณ และแก้ไขความคลาดเคลื่อนของผังประมวลผลโปรแกรมใหม่ให้ถูกต้อง
จัด เตรียมข้อสั่งหรือคู่มือการใช้งานระบบนั้นๆ และชี้แจงให้เจ้าหน้าที่ผู้ใช้เครื่องได้ใช้เป็นแนวทางในการทำงาน วิเคราะห์ ตรวจสอบและเขียนผังประมวลผลโปรแกรมใหม่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติ งาน หรือเพื่อดัดแปลงแก้ไขให้เป็นไปตามความต้องการ ประมวลเอกสารหลักฐานของการพัฒนาโปรแกรม และการแก้ไขเปลี่ยนแปลงโปรแกรม อาจชำนาญในการเขียนโปรแกรมสำหรับเครื่องจักรคำนวณแบบใดแบบหนึ่ง หรือประเภทใดประเภทหนึ่งโดยเฉพาะ
สภาพการทำงาน  
ผู้ปฏิบัติงานโปรแกรมคอมพิวเตอร์-Computer-Programmer จะ ต้องใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ในการเขียนและทดสอบ ดังนั้นสภาพทำงานจะเป็นสำนักงานที่มีอุปกรณ์ สิ่งอำนวยความสะดวกเช่นสำนักงานทั่วไป จะมีการออกไปติดต่อผู้ใช้งานระบบเพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติมบ้างเป็นครั้งคราว
งานเขียนโปรแกรมเป็นงานที่ต้องนั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน วันหนึ่งประมาณ 6-7 ชั่วโมง หรือมากกว่านั้น ต้องใช้ประสาทสัมผัสของสายตาและมือ บางครั้งอาจมีปัญหากับสายตาได้ เนื่องจากอยู่กับจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน
คุณสมบัติ
ผู้ประกอบโปรแกรมคอมพิวเตอร์-Computer-Programmer อย่าง น้อยต้องสำเร็จปริญญาตรีทางด้านคอมพิวเตอร์ มีความรู้ในการเขียนภาษาคอมพิวเตอร์ มีทักษะทางด้านคณิตศาสตร์และภาษาอังกฤษ ควรมีความคิดสร้างสรรค์ และซื่อสัตย์ในอาชีพ ไม่ใช้ความรู้ความสามารถในวิชานี้ ดัดแปลงโปรแกรมหรือข้อมูลเพื่อประโยชน์ส่วนตัว มีความรับผิดชอบในงานที่ได้รับมอบหมาย ควรจะมี มนุษย์สัมพันธ์ที่ดีเนื่องจากเป็นหน่วยงานที่ให้บริการในการให้ใช้งาน คอมพิวเตอร์ และผู้ใช้ระบบงานอาจจะต้องการความช่วยเหลือและคำแนะนำในด้านการใช้งานจึง ต้องมีความสามารถชี้แจง ให้ข้อเสนอแนะในการปฏิบัติงานให้แก่ผู้ใช้ระบบงาน รวมทั้งต้องรับฟังความคิดเห็นหรือข้อเสนอแนะจากผู้อื่น
หมายถึงผู้ดูแลและคอยตรวจสอบสภาพเครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อให้มีสภาพความพร้อมที่จะทำงานได้ตลอดเวลา   กลุ่มนี้จะเรียนรู้เทคนิคการรักษา  ดูแลเครื่องคอมพิวเตอร์  ตลอดการต่อเชื่อม  ตลอดจนการใช้งานโปรแกรมต่างๆ  ค่อนข้างดี
ลักษณะงานที่ทำ   
 - ตรวจ เช็คซ่อมบำรุงรักษาเครื่องคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ต่อพ่วงต่าง ๆ ของทางบริษัท และติดต่อประสานงานกับผู้ขายเพื่อการรับประกันสินค้าได้ ในกรณีที่คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์นั้น ๆ ยังอยู่ในระยะเวลารับประกัน
- ดูแลระบบ LAN, WAN, VDO Conference ภายในบริษัทและระหว่างสาขาที่อยู่ต่างประเทศเช่น จีน, ไต้หวัน,เยอรมัน, อินเดีย, สโลวะเกีย และ เม็กซิโก และจัดการระบบ Domain ขององค์กร รวมไปถึงการดูแลรักษาตู้  Network Rack และ Network Cable ต่าง ๆ ในระบบเครือข่ายของบริษัท
- แก้ไข ให้คำปรึกษาแก่ผู้ใช้งานในบริษัทในกรณีที่คอมพิวเตอร์หรือโปรแกรมสำเร็จรูป ที่มีปัญหา ทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ รวมทั้งหมดประมาณ 2000 กว่าคน ในแบบการเดินทางไปแก้ไขปัญหายังโต๊ะทำงานของผู้ใช้งาน(On site), สนทนาทางโทรศัพท์, ผ่าน e-mail ขององค์กร (MS Outlook) และการรีโมทไปแก้ปัญหาให้ผู้ใช้(Remote Desktop, Net meeting) โดยไม่ต้องเดินทางไปทำด้วยตัวเอง- พัฒนาเว็บบอร์ดภายในให้กับแผนก IT ของบริษัท เพื่อติดต่อภายในแผนก โดยใช้ภาษา PHP และ MySQL
- สามารถติดตั้งและใช้งานโปรแกรมสำเร็จรูป Microsoft Office และโปรแกรมพื้นฐานอื่น ๆ ได้เป็นอย่างดี
- แก้ไขปัญหาและติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows 98, me, 2000, XP, Vistaรวมไปถึง Driver, Service Pack, Patch, Hot fix ต่าง ๆ
- วิเคราะห์ แก้ไขปัญหาไวรัส คอมพิวเตอร์และความผิดปกติต่าง ๆ ของระบบคอมพิวเตอร์เลือกใช้เครื่องมือในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ของคอมพิวเตอร์ได้เป็นอย่างดี
คุณสมบัติ
1.  มีความรู้ในการดูแล และ แก้ไขปัญหา ระบบ Network, Lan , Wireless, Hardware, Software ได้
2.  สามารถติดตั้ง Install และ Setup ระบบ Linux Server + Service ต่าง ๆ ได้
3.  หากมีความรู้ในด้าน Install และ Setup ระบบ Windows Server 2003/2008, E-mail Exchange จะพิจารณาเป็นพิเศษ
4.  หากมีความรู้ในด้าน พัฒนาโปรแกรม PHP, MySql และ CMS ต่าง ๆ จะพิจารณาเป็นพิเศษ
 เป็นผู้มีหน้าที่บริหารทรัพยากรทุกชนิดที่เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่องค์กร จะทำหน้าที่กำหนดทิศทาง นโยบายและแผนงานทางคอมพิวเตอร์ในองค์กรทั้งหมดว่า ควรเป็นไปในรูปแบบใด การขยายงานทางด้านธุรกิจขององค์กรที่รวดเร็ว ควรจะมี การปรับ เพิ่ม ลด องค์ประกอบทางด้านคอมพิวเตอร์ส่วนใดอีกบ้างที่จะทำให้เป็น ไปตามเป้าหมายโดยรวมมากที่สุด 
-  ผู้ที่มีหน้าที่ดูแลและบริหารระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ขององค์กร
-  เกี่ยว ข้องกับลักษณะงานด้านเครือข่ายโดยเฉพาะ เช่น การติดตั้งระบบเครือข่ายการควบคุมสิทธิของผู้ที่จะใช้งาน การป้องกันการบุกรุกเครือข่าย เป็นต้น
- มีความชำนาญเกี่ยวกับระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์เป็นอย่างดี และต้องมีทักษะในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างทันท่วงที


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น